เดินทางเข้าสู่ปี 2018 กันแบบเต็มตัวแล้ว จะไม่พูดถึงธุรกิจ startup ที่น่าจับตามองเลยก็คงจะไม่ได้ เพราะปีนี้มี startup หน้าใหม่ตบเท้าเปิดตัวกันอย่างคับคั่ง แต่จะมีธุรกิจไหนน่าจับตามองบ้างนั้น…ตามมาดูกันเลย

5 startups น่าจับตามองปี 2018 ด้วยเงินทุนระดับพันล้านบาท!

Qualtrics

CEO Qualtrics, Ryan Smith

ผู้ก่อตั้ง: Ryan Smith, Jared Smith, Stuart Orgill

เงินทุน: $400M. (~12.89 พันล้านบาท)

Qualtrics คือบริษัทด้านซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลแบบออนไลน์ได้ในหลากหลายวัตถุประสงค์ Qualtrics ก่อตั้งขึ้นในปี 2002  จากแนวคิดที่ต้องการสร้างธุรกิจแบบ “management experience” อย่างไรก็ตาม Qualtrics ไม่ได้เปิดระดมทุนจากภายนอกกระทั่งปี 2012 จึงมีการเปิดระดมทุนครั้งแรก และกลายเป็น Unicorn ที่สร้างรายได้ได้มากกว่า $250M. (~8 พันล้านบาท) ในปี 2017

Plenty

ฟาร์มรูปแบบใหม่ของ Plenty

ผู้ก่อตั้ง: Matt Barnard, Nate Mazonson, Nate Storey

เงินทุน: $226M. (~7.28 พันล้านบาท)

Plenty คือบริษัทที่มีแนวคิดที่จะสร้าง “ฟาร์มแบบใหม่สำหรับโลกใหม่” ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุดเท่าที่มี Plenty จึงใช้พื้นที่และน้ำน้อยกว่า 1% เมื่อเทียบกับการทำการเกษตรแบบปกติทั่วไป แต่สามารถเพาะปลูกและได้ผลิตผลที่สดใหม่ในปริมาณเท่ากัน เทคโนโลยีของ Plenty ช่วยให้สามารถเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตรได้แม้จะเป็นพื้นที่ในเขตที่ติดกับตัวเมือง

โดยพื้นที่ดังกล่าวมักเป็นพื้นที่ที่ประชากรขาดแคลนอาการและวัตถุดิบ เนื่องการเข้าถึงสินค้าราคาถูกเป็นไปได้ยาก เมื่อไม่นานมานี้ Plenty มีการประกาศแผนการทำฟาร์มเพาะเลี้ยงขนาด 100 เอเคอร์ในซีแอตเติล ซึ่งเป็นบริเวณที่ชาวบ้านมีประวัติประสบกับปัญหาในการเข้าถึงผลิตผลทางการเกษตร  และด้วยแนวคิดที่น่าสนใจนี่เองทำให้ CEO Amazon อย่าง Jeff Bezos ก็มีชื่อเป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงทุนจำนวนมากมายของ Plenty

Pindrop

Pindrop Office

ผู้ก่อตั้ง: Dr. Mustaque Ahamad, Paul Judge, Vijay Balasubramaniyan

เงินทุน: $122M. (~3.93 พันล้านบาท)

Pindrop เป็นอีกหนึ่งบริษัทด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ แต่สิ่งที่ทำให้ startup รายนี้แตกต่างจากบริษัทอื่น คือ Pindrop วางตัวเองในฐานะผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีด้านการจดจำเสียง โดยเน้นไปที่การสร้างและพัฒนาระบบ ที่สามารถตรวจสอบการทุจริตและรักษาความปลอดภัยได้จากการวิเคราะห์และจดจำเสียงของผู้ใช้งาน จุดเด่นอีกประการของระบบนี้คือแม้จะใช้งานผ่านโทรศัพท์ Pindrop ก็ยังสามารถระบุได้ว่าเสียงนั้นเป็นเสียงจริงจากมนุษย์หรือสร้างขึ้นโดยคอมพิวเตอร์

นักลงทุนจากหลากหลายสถาบันการเงินเชื่อว่า Pindrop จะเป็นอีกหนึ่ง startup ที่เติบโตได้อีกไกล เนื่องจากตลาดระบบรักษาความปลอดภัยด้วยเสียงยังถือเป็นตลาดใหม่ที่ยังไม่คู่แจ่งมากนัก

Duo Security

การทำงานของ Duo Security

ผู้ก่อตั้ง: Dug Song, Jon Oberheid

เงินทุน: $121M. (~3.89 พันล้านบาท)

Duo Security ทำธุรกิจด้านความปลอดภัยบนระบบอินเทอร์เน็ต โดยเชี่ยวชาญด้านเครือข่ายทางธุรกิจเป็นหลัก พวกเขาพัฒนา app ที่ช่วยตรวจสอบสองปัจจัยสำหรับบนเครือข่ายของบริษัท 1) การจัดการรหัสผ่านและ 2) การตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ใดก็ตามที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายของบริษัทนั้นปราศจากไวรัส และในฐานะ Unicorn ตัวแรกจากรัฐมิชิแกน Duo Security มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวทุกปีในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา

Zume Pizza

รถส่งพิซซ่าจาก Zume Pizza

การทำงานของหุ่นยนต์ในรถส่งพิซซ่าของ Zume Pizza

ผู้ก่อตั้ง: Alex Garden, Julia Collins

เงินทุน: $48M. (~1.54 พันล้านบาท)

ที่ Zume Pizza มนุษย์และหุ่นยนต์ทำงานร่วมกัน ในการจัดเตรียมและจัดส่งพิซซ่าโดยมีกระบวนการปรุงสุกระหว่างทาง เพื่อให้แน่ใจว่าพิซซ่าที่ลูกค้าสั่งจะมาถึงที่หมายแบบร้อนๆและสดใหม่เสมอ พนักงานที่ผสมผสานระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์นี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความแข็งแกร่งให้กับกระบวนการทำงาน

นอกเหนือจากแนวคิดสุดเจ๋งนี้แล้ว ระบบอัตโนมัติของ Zume Pizza อาจจะช่วยให้เราเข้าสู่ยุคใหม่ของการจัดส่งอาหารแบบ Delivery เนื่องจากนอกจากเราจะมีการพึ่งพาเทคโนโลยีในการสั่งอาหารแล้ว ขั้นตอนถัดไปเราอาจจะได้พึ่งพาเทคโนโลยีในการปรุงอาหารและส่งมอบอาหารเพิ่มเข้ามาด้วย ดังนั้น Zume Pizza จึงเป็นเสมือนต้นแบบของการร้านอาหารแบบ delivery ที่ไม่ได้พึ่งพาการทำงานจากคน แต่ก็ไม่ได้แย่งงานจากคนมาใช้หุ่นยนต์แทน แต่เป็นการทำงานร่วมกันเพื่อให้ได้การจัดส่งอาหารที่ดีที่สุด

ต้องถือว่าเป็นปีที่แค่เริ่มต้นแต่ก็มี startup เจ๋ง ๆ ให้จับตามองกันแล้ว Fintech เองเชื่อว่านี่จะเป็นอีกปีที่วงการธุรกิจน่าจะมีอะไรสนุก ๆ ให้เราได้ติดตามกันไม่แพ้ปี 2017 ที่ผ่านมา

Cr. investorplace.com, qualtrics.com, media.glassdoor.com, i2.wp.com, news.mit.edu, mercurynews.com, fm.cnbc.com