อาชีพมาแรงในสายงาน FinTech ในปี 2018
หากพูดถึง FinTech ในปี 2018 คงไม่ใช่เรื่องที่แปลกหูอีกต่อไป สำหรับประเทศไทยที่กำลังเข้าสู่ยุคแห่งการปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยี สายงาน FinTech ก็ดูจะเป็นที่ต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่จะมีงานสายไหนบ้าง…ตามมาดูกัน
อาชีพสุด HOT ต้อนรับการเติบโตของสาย FinTech ในปี 2018
นักพัฒนาแอพพลิเคชัน (App Developers)
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ต้องถือว่าสายงานนี้เป็นสายงานที่แรงดีไม่มีตกจริง ๆ เพราะมาแรงและเป็นที่ต้องการในแทบทุกอุตสาหกรรมที่เริ่มปรับตัวเข้าหาสื่อดิจิตอล โดยเฉพาะสายฟินเทคที่การทำงานถูกย้ายมาอยู่บนแพลตฟอร์มที่ทำงานบนสมาร์ทโฟน นักพัฒนาแอพพลิเคชัน หรือ App Developers จึงถือเป็นหนึ่งในตำแหน่งที่เป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจ อย่างการใช้งาน Mobile banking ที่ในไทยถือว่ามีจำนวนการเติบโตที่มาขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในกลุ่มคนวัย 18 – 34 ปี หรือกลุ่ม Milllenials ที่มีการทำธุรกรรมผ่าน Mobile banking มากที่สุด ก็กำลังสะท้อนให้เห็นว่าแพลตฟอร์มนี้กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด
นักวิเคราะห์เชิงปริมาณ (Quantitative analyst)
“Quants” เปรียบเสมือนสมองขนาดใหญ่ที่ใช้บรรจุแบบจำลองทางการเงินที่ซับซ้อน นักวิเคราะห์เชิงปริมาณคือกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังข้อมูลในสมองขนาดใหญ่นั้น ที่ถูกขับเคลื่อนด้วยโปรแกรมการซื้อขายที่ถูกใช้โดยธนาคาร เพื่อกำกับดูแลการลงทุนที่มีมูลค่าสูงและกองทุนขนาดใหญ่ เพื่อป้องกันความเสี่ยงในด้านราคา การค้าขายหลักทรัพย์และการวิเคราะห์ความเสี่ยง ด้วยการเพิ่มขึ้นของ Big Data ทำให้ quants กลายเป็นสิ่งจำเป็นในโลกการเงินในการสร้างแบบจำลองที่สามารถใช้ซื้อ-ขายได้แบบอัตโนมัติและเป็นกระบวนการที่ไม่จำเป็นต้องใช้มนุษย์ในการจัดการด้วยตนเองแต่ทำแค่ดูแลระบบโดยรวมเท่านั้น
งานสาย AI และผู้เชี่ยวชาญด้าน Blockchain
ถือเป็นงานสายเฉพาะที่กำลังมาแรงในยุคดิจิตอล สำหรับงานสาย AI นั้นเรียกได้ว่าแทบจะอยู่ในทุกสายอุตสาหกรรม ในสายฟินเทคเองก็มีการนำเอา AI เข้ามาใช้อย่างแพร่ โดยการสำรวจพบว่าบริษัทที่ทำธุรกิจด้านฟินเทคกว่า 30% มีการลงทุนใน AI นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่กำลังมาแรงอย่าง Blockchain สกุลเงินดิจิตอลที่ถูกใช้ในหลายด้าน เช่น การระดมทุนหรือการแลกเปลี่ยนทางการค้า ทำให้สายงานทั้งด้านกำลังเป็นที่ต้้องการในอุตสาหกรรมฟินเทค
นักกฎหมายการเงิน
กระบวนการธุรกรรมทางการเงินที่เปลี่ยนแปลงไปเพราะเทคโนโลยี ในบางครั้งก็สุ่มเสี่ยงต่อการขัดต่อกฎหมาย ดังนั้้นในหลาย ๆ บริษัทที่หันมาทำธุรกิจเกี่ยวกับฟินเทคจึงต้องมีการศึกษาข้อกฎหมายและหลักปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อเลี่ยงการทำงานที่อาจขัดต่อหลักกฎหมาย นักฎหมายที่เชี่ยวชาญด้านการเงินต้องในประเทศไทยต้องถือว่ามีจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับนักกฎหมายในสายอื่น ๆ อย่างไรก็ตามสายงานนี้ถือเป็นสายงานเฉพาะซึ่งไม่ใช่ทุกบริษัทที่ทำฟินเทคจำเป็นต้องมี แต่ในทางกลับกันทุกบริษัทต้องมีการปรึกษาการทำงานกับสายอาชีพนี้
เมื่อหลายปีก่อน Big Data ทำให้เกิดอาชีพอย่าง Data Scientist จึงไม่น่าแปลกที่ในปัจจุบันการเข้ามาของ FinTech ก็สามารถทำให้เกิดสายอาชีพเฉพาะอย่าง Blockchain experts ได้เช่นกัน
Cr. social.hays.com