หน้าตาที่เปลี่ยนไปของ Market Capitalization
Market Capitalization (Market Cap) คือมูลค่าตลาดโดยรวมของหุ้น ซึ่งคำนวณโดยการเอาราคาปิดของหุ้นคูณกับปริมาณของหุ้นที่จดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ ปัจจุบัน SET มี Market Cap ของหุ้นสามัญทุกตัวรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 14 ล้านล้านบาท โดยที่ Market Cap นี้จะเปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะของตลาด การเพิ่มทุน และ IPO ที่ทยอยมีเข้ามาเรื่อยๆ
จาก Market Cap รวมของ SET เราควรแบ่งตัวเลขออกมาเป็นราย Sector เพื่อวิเคราะห์ถึงแนวโน้มในภาพรวมของเศรษฐกิจว่ากลุ่มธุรกิจใดมีความสำคัญบ้าง ซึ่งกลุ่มพลังงาน (ENERG) และกลุ่มธนาคาร (BANK) เป็น Sector ที่ใหญ่ที่สุดมาโดยตลอด ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในกลุ่มดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างมากต่อ SET Index เนื่องจาก SET Index มีการคำนวณโดยถ่วงน้ำหนักตาม Market Cap อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำหนักของ ENERG นั้นลดลงตามไปด้วย เมื่อเราเปรียบเทียบข้อมูลล่าสุด (14 กันยายน 2016) กับข้อมูลเมื่อสิ้นปี 2007 เราจะพบว่าน้ำหนักของ ENERG ลดลงจาก 33% เหลือ 16% ในขณะที่ BANK มีน้ำหนักที่ค่อนข้างคงที่ ส่วน Sector อื่นๆ มีการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม COMM, TRANS, FOOD และ HELTH ส่งผลให้น้ำหนักของ Market Cap ทั้งตลาดมีความสมดุลมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน สังเกตได้จากรูปด้านล่างซึ่ง Chart ทางด้านขวามีความสมดุลมากกว่า Chart ทางด้านซ้ายอย่างเห็นได้ชัด
Market Capitalization by Sector
ความสมดุลในน้ำหนักของ Market Cap จะส่งผลให้ความผันผวนของ SET Index ลดลง และทำให้การลงทุนในกลยุทธ์ที่เกาะกับ SET Index มีความน่าสนใจมากกว่าเมื่อก่อน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนผ่านทางหุ้นสามัญ, ETF หรือกองทุนรวม เนื่องจาก Passive Portfolio ของเรานี้จะมีการกระจายความเสี่ยงที่ดีขึ้นนั่นเอง
ชลเดช เขมะรัตนา